การดูราคาบอลที่ถูกต้อง ufabet การพนันดี
การดูราคาบอลที่ถูกต้อง ufabet การพนันดี เนื่องจากราคาบอล เป็นอีกหนึ่งหัวข้อ ที่สร้างความสับสนให้กับ นักพนันมือใหม่เป็นอย่างมาก ดังนั้น การได้เรียนรู้วิธีดูราคาบอลที่ถูกต้อง นอกจากจะช่วยให้เข้าใจการเล่นมากขึ้น
ยังช่วยให้คุณ ไม่เสียเปรียบเจ้ามืออีกด้วย ในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจกับวิธีดูราคาบอล เชิงลึกว่ามีกี่แบบ กี่ประเภท ใช้ได้กับบอลทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นบอลเดี่ยว หรือ บอลสเต็ป บอกแบบครบถ้วน จบในบทความนี้เลย
8 รูปแบบวิธีการดูราคาบอล
ลักษณะของราคาบอล หรือราคาเอเชียนแฮนดิแคปนั้น เป็นรูปแบบของราคา ที่มีการเปรียบเทียบ ความได้เปรียบ เสียเปรียบบอลต่อบอลรอง ซึ่งจะแสดงออกมา เป็นผลของตัวเลขซึ่งจะมีราคาต่างๆ โดยสากลแล้ว จะมีประมาณ 8 ประเภทดังนี้
- 1. ราคา 0.00 หรือ ราคาต่อเสมอ ไม่แสดงความได้เปรียบ เสียเปรียบ หรือว่ากันง่ายๆ คือนับเพียงว่าทีมใดชนะเท่านั้น แต่ให้ระวังค่าน้ำให้ดี เพราะหากทีมใด มีราคาค่าน้ำน้อยกว่า หมายความว่าทีมนั้น จะเป็นทีมต่อทันที แม้ว่าจะต่อเสมอก็ตาม
- 2. ราคา 0.25 หรือ ต่อ ป.ป บนเว็บจะเป็นเลข (0 – 0.5) หมายความว่า เมื่อเกิดผลเสมอ ทีมที่เป็นบอลต่อ จะเสียเงินเพียงครึ่งเดียว ของมูลค่าเดิมพัน ในขณะที่หากคุณเดิมพันกับบอลรอง จะได้กำไรแค่เพียงครึ่งเดียว จากค่าน้ำเท่านั้น
- 3. ราคา 0.50 หรือ ต่อครึ่งลูก บนเว็บจะเป็นเลข (0.5) เป็นราคาซึ่งชี้วัดการแพ้ชนะ ของบอลที่เกิดขึ้น ซึ่งหมายถึงเมื่อเกิดผลเสมอขึ้นมา ผู้ที่เดิมพันกับทีม ที่เป็นบอลต่อจะเสียเงินเต็มจำนวน ในขณะที่การเดิมพันกับบอลรอง จะได้รับเงินเต็มจำนวน ในขณะที่เมื่อเกิดการแพ้ชนะกันขึ้น หากเดิมพันถูกฝั่งก็ได้รับเงินทันที
- 4. 0.75 หรือ ต่อครึ่งควบลูก บนเว็บจะเป็นเลข (0.5 – 1) ราคาที่ทีมต่อ มีความได้เปรียบไม่ถึง 1 ลูก หรือหมายความว่า หากคุณเดิมพันแล้วทีมนั้นชนะไม่เกิน 1 ลูก ผู้เดิมพันจะได้เงินแค่เพียงครึ่งเดียว แต่หากทีมเดิมพันชนะมากกว่า 1 ลูก ผู้เดิมพันบอลต่อ จะได้เงินเต็มจำนวน ซึ่งจะเป็นไปในทางตรงกันข้าม เมื่อเลือกเดิมพันกับบอลรอง
- 5. 1.00 หรือ ต่อหนึ่งลูก บนเว็บจะเป็นเลข ( 1 ) ซึ่งหมายถึงการเดิมพัน ที่จะต้องมีผลต่างของการชนะมากกว่า 1 ลูกเท่านั้น ในขณะที่หากเกิดผลเสมอ ผู้เดิมพันกับบอลต่อ จะเสียเงินเดิมพันทันทีเช่นกัน
- 6. 1.25 หรือ ต่อลูกควบลูกครึ่ง บนเว็บจะเป็นเลข (1 – 1.5) หากเลือกเดิมพันกับบอลต่อ และบอลต่อชนะ แค่เพียงลูกเดียว หรือเกิดผลต่างแค่เพียงลูกเดียว ผู้เดิมพันจะต้องเสียเงินเดิมพัน ครึ่งหนึ่งของมูลค่าเดิมพัน แต่หากเลือกเดิมพันกับบอลรอง ผู้เดิมพันบอลรอง จะได้เงินกลับมาครึ่งเดียว ของมูลค่าค่าน้ำ ในขณะที่เกิดการแพ้ชนะกัน ที่มีผลต่อมากกว่า 1 ประตู ก็ทำให้ได้รับเงิน หรือเสียเงินไปเต็มจำนวนเช่นกัน
- 7. 1.50 หรือ ต่อหนึ่งลูกครึ่ง บนเว็บจะเป็นเลข (1.5) หมายถึงเลือกเดิมพันไปกับบอลต่อ หากบอลต่อชนะ ซึ่งมีผลต่างน้อยกว่า 2 ประตู จะทำให้เสียเงินเดิมพัน ในขณะที่เมื่อเลือกเดิมพันกับบอลรอง หากบอลรองแพ้มากกว่า 1 ประตู ก็จะทำให้เสียเงินเต็มจำนวน เช่นเดียวกัน
- 8. 1.75 หรือ ต่อลูกครึ่งควบสอง บนเว็บจะเป็นเลข (1.5 – 2.0) หมายถึง เมื่อเดิมพันไปกับบอลต่อ หากบอลต่อชนะ และเกิดผลต่างน้อยกว่าสองลูก ผู้เดิมพันเสียเงินตามสัดส่วน แต่หากเป็นการชนะมากกว่า 2 ลูก ผู้เดิมพัน จะเสียเงินเต็มจำนวน หากเลือกเดิมพันกับบอลรอง
ทำความรู้จักกับค่าน้ำในแต่ละประเภท
ค่าน้ำ คือ ตัวชี้วัดความคุ้มค่า ในการวางเดิมพัน เป็นอัตราส่วนความคุ้มค่า ที่เกิดขึ้นกับการเดิมพันนั้น โดยค่าน้ำ จะแสดงอัตราการได้เสีย ในแต่ละรูปแบบ ซึ่งในปัจจุบัน มีรูปแบบของค่าน้ำมากมาย แต่ละเว็บบอลออนไลน์ ก็ไม่เหมือนกัน แต่โดยส่วนใหญ่ตามหลักสากล ค่าน้ำจะถูกแบ่งเป็นรายละเอียดดังนี้
- 1. ค่าน้ำแบบมาเลย์ (MY) ตัวเลือกค่าน้ำแบบนี้ จะมีการแสดงผลในเว็บเดิมพัน ที่จะแสดงเป็นสีดำและสีแดง แต่การคิดอัตราการได้เสีย จะเปรียบเทียบกับราคาบอลที่เดิมพันไป
- ตัวอย่างเช่น เดิมพันกับสกอร์สูงที่ครึ่งลูกด้วยค่าน้ำแบบมาเลย์ (แสดงค่าน้ำที่ -50)หมายความว่า เดิมพันไปแล้วจะเสียเงินเดิมพันแค่เพียงครึ่งเดียว หากชนะการเดิมพันจะได้เงินเดิมพันกลับมาเต็มจำนวน
- 2. ค่าน้ำแบบฮ่องกง (HK) เป็นรูปแบบค่าน้ำแบบการเดิมพันที่ทำให้เสียเงินเต็มจำนวน
- เช่น เมื่อเป็นค่าน้ำมาเลย์อาจจะเปิดราคามาที่ – 0.47 ในขณะที่ค่าน้ำแบบฮ่องกงจะเปิดมาที่ 2.27 เมื่อเดิมพันไป 100 บาท เราจะเสียต้นทุนไป 100 บาทเต็มจำนวนแต่จะได้เงินกลับมา 227 บาท โดยไม่รวมต้นทุน
- 3. ค่าน้ำแบบ ยูโร ( EU ) เป็นรูปแบบค่าน้ำที่มีความคล้ายคลึงกันกับค่าน้ำแบบฮ่องกง เพียงแต่การแสดงของค่าน้ำจะเป็นราคาที่รวมต้นทุนในการเดิมพันไปแล้ว
- เช่น ค่าน้ำแบบมาเลย์เปิดราคามาที่ – 0.47 ในขณะที่ค่าน้ำฮ่องกงแสดงราคา 2.27 เมื่อเป็นค่าน้ำแบบยูโรจะแสดงราคาที่ 3.5 แม้ว่าสุดท้ายแล้วมันจะทำให้ได้เงินกลับมาในราคาที่ค่อนข้างจะใกล้เคียงกัน ที่ต่างกันแค่เพียงต้นทุน ซึ่งใส่เข้าไปเท่านั้นเอง แต่เมื่อเป็นการเสียต้นทุนค่าน้ำแบบยูโรและฮ่องกงจะเสียเงินเต็มจำนวนตามมูลค่าเดิมพัน