เว็บบล็อก ที่รวบรวมทุกเรื่องที่น่าสนใจ เกี่ยวกับ คาสิโนออนไลน์ UFABET ทุกเรื่องที่น่าสนใจ อัพเดทข้อมูลใหม่ๆ สำหรับนักเล่นที่สนใจ เดิมพันเกม คาสิโนออนไลน์

วิธีเล่น เกมไพ่แบล็คแจ็คออนไลน์ ( Blackjack Online)

Uncategorized 15 มิถุนายน 2020
วิธีเล่น เกมไพ่แบล็คแจ็คออนไลน์ ( Blackjack Online)

วิธีเล่น เกมไพ่แบล็คแจ็คออนไลน์ ( Blackjack Online) แบล็คแจ็ค เป็นเกมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในคาสิโนในฝั่งยุโรป เพราะว่ามันเป็นเกมที่มีการรวมกันเล่นหลายคนและสนุก และประวัติมันเกิดขึ้นในทวีปยุโรป ในปี 1601 การเล่นก็จะมีความเข้าใจง่าย นั้นก็คือเพียงคุณนั้นมีไพ่ในมือแต้มใกล้เคียง 21 แต้ม ก็จะเป็นฝ่ายชนะ หากแต้มเท่ากัน 21 ก็จะถือว่าเป็นแต้มที่สูงสุด และจะได้ตราการจ่ายเงินเพิ่มขึ้นอีกด้วย และเมื่อผ่านมาไม่นาน ก็ได้มีการนำแบล็คแจ็คเข้ามาบรรจุลงใน คาสิโนออนไลน์ เพื่อที่จะเป็นการบริการที่ดีขึ้น สะดวกสบายขึ้น เข้าถึงง่ายขึ้น เกมแบล็คแจ็ค จึงเป็นเกมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในคาสิโนออนไลน์ในเวลานี้

คุณอาจสนใจ 8 เทคนิคเล่นคาสิโนออนไลน์ให้ได้เงินจริง

1. กติกาการเล่นแบล็คแจ็ค

ก็หลักการง่าย ๆ คือหลังจากแจกไพ่ครบ ทุกคนสามารถจั่วไพ่ ได้ไม่จำกัด จั่วจนกว่าแต้มของคุณจะเกิน 21 หรือได้แต้มที่พอใจ หรือแต้มเกิน 21 ก็จะหมดสิทธิ์จั่วเช่นกัน และ แบล็คแจ็คเป็นเกมการเล่นของผู้เล่นกับเจ้ามือ แต้มของผู้เล่นคนอื่นบนโต๊ะ ไม่ส่งผลต่อไพ่คุณ

  1. แต้มของไพ่
  2. ไพ่ตั้งแต่ 2 – 10 มีแต้มตามหน้าของไพ่
  3. ไพ่ J Q K มีค่าเท่ากับ 10 แต้ม
  4. A มีแต้มเป็น 1 หรือ 11 ก็แล้วแต่ไพ่ในมือของท่านจะมีแต้มรวมเท่าไหร่นั้นเอง
  5. แต้มรวมของไพ่เท่ากับ 21 คือไพ่แบล็คแจ็ค

2. การประกัน

เมื่อดีลเลอร์ที่หงายใบแรกนั้นคือ A เกมก็จะมีระบบประกันขึ้นมา เพื่อที่จะเป็นสิ่งประกันความเสี่ยงหากเจ้ามือนั้นมีแต้ม 21 หรือแบล็คแจ็ค เงินรางวัลของการประกัน ก็เท่ากับครึ่งหนึ่งของเงินที่คุณนั้นวางเดิมพัน หากเปิดไพ่ขึ้นมาแล้ว เจ้ามือไม่ได้แต้ม 21 หรือแบล็คแจ็ค เกมก็จะดำเนินต่อไป หากแต้มเสมอกัน คุณก็จะสามารถรับเงินคืน

3. เพิ่มเดิมพันเป็นสองเท่า

หากเจ้ามือเปิดไพ่สองใบแรกแล้ว เจ้ามือไม่ได้แบล็คแจ็ค ผู้เล่นจะมีโอกาสเรียกไพ่เพิ่ม และสามารถเพิ่มเดิมพันเป็นสองเท่าได้ และเมื่อท่านนั้นเลือกเดิมพันเป็นสองเท่า ดีลเลอร์นั้นจะแจกไพ่ไห้ท่านนั้นเพียงใบเดียว แต่หากท่านเลือกจั่วไพ่เพิ่ม ท่านก็จะสามารถเพิ่มไพ่ได้ตามที่ท่านนั้นต้องการ และหากเลือกที่จะหยุดจั่ว ท่านจะไม่ได้ไพ่เพิ่มเลยนั้นเอง

4. การแยกไพ่

หากไพ่ในมือของท่านนั้น มีค่าเท่ากันในสองใบแรกเช่น 2,2 4,4 A,A ท่านจะสามารถเลือกแยกไพ่ออกเป็นสองมือได้ โดยเงินวางเดิมพัน จะต้องเท่ากับเงินเดิมพันหลักของท่าน เช่น หากท่านวางเดิมพันหลัก 100 แยกไพ่แล้ว ท่านจะต้องวางเดิมพันขาล่ะ 100 นั้นเอง และเมื่อเมื่อแยกไพ่แล้ว ท่านก็จะสามารถเล่นได้ตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นการจั่วไพ่ การหยุดจั่ว และแบบต่าง ๆ นั้นเอง

  1. ผลลัพธ์ในการเล่น
  2. หากแต้มในมือท่าน มีแต้มเกิน 21 ท่านจะแพ้ทันที และท่านจะเสียเงินทันที
  3. หากทุกคนได้แต้มที่พอใจแล้ว ดีลเลอร์จะทำการเปิดไพ่ หากเจ้ามือมีแต้มเท่ากัน 17 นั้นจะไม่สามารถจั่วไพ่เพิ่มได้
  4. คุณจะชนะนั้นก็ต่อเมื่อ ไพ่ในมือคุณนั้นมีแต้มสูงกว่าดีลเลอร์ และไพ่ของคุณนั้นเป็นแบล็คแจ็ค และหากมีไพ่เสมอกัน คุณจะได้รับเงินเดิมพันคืน

สมัครเล่นคาสิโนออนไลน์กับ UFABET คลิกเลย!

5. รูปแบบการวางเดิมพัน   

การวางเดิมพันของไพ่แบล็คแจ็คนั้น มันมีการวางเดิมพันข้างเคียง ( Bet Side) ได้อีกด้วย มันจึงทำไห้มีรูปแบบการวางเดิมพันที่ไห้ท่านนั้นสามารถเลือกที่จะทำการวางเดิมพันได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น 21+3, Perfect Pair, Bet Behind เราจะมาอธิบายการเดิมพันแต่ล่ะอย่างไห้ท่านนั้นรู้จัก เพื่อที่จะทำให้ท่านรู้จักกับรูปแบบการเดิมพันนี้มากขึ้น

  1. วางเดิมพัน Perfect Pair
  2. เป็นการวางเดิมพันที่ทำไห้ท่านนั้นมีโอกาสชนะเพียงแค่ใช้ไพ่ 2 ใบแรกเท่านั้น โดยที่ไพ่ของท่าน 2 ใบแรกนั้นจะต้องเป็นไพ่คู่ เช่น 2-2, 3-3, 4-4, Q-Q เป็นต้น
  3. คู่เหมือน ไพ่ทั้งสองใบจะต้องมีดอกเดียวกัน เช่น 2 ใบ A โพแดงสองใบ จะมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 25 : 1 (ขึ้ นอยู่กับโต๊ะนั้น ๆ )
  4. คู่สี ไพ่ทั้งสองใบนั้นจะต้องมีสีเหมือนกันสองใบ แต่คนล่ะดอกได้ เช่น 2 โพแดงกับ 2 ข้าวหลามตัด อัตราการจ่ายอยู่ที่ 12 : 1 ( ขึ้นอยู่กับโต๊ะนั้น ๆ )
  5. คู่ผสม ดอกและสีต่างกัน เช่น 10 โพแดง กับ 10 โพดำ อัตราการจ่ายอยู่ที่ 6 : 1 ( ขึ้นอยู่กับโต๊ะนั้น ๆ )
  • วางเดิมพัน 21+3

การเดิมพัน 21+3 คือ การที่ไพ่ในมือของท่านนั้นมีโอกาสที่จะเกิดการ ตองเหมือน, สเตรทฟลัช, ตอง,สเตรท,ฟลัช และหากท่านนั้นชนะในรูปแบบที่พูดมานี้ ก็จะมีอัตราการจ่ายที่เยอะมาก

  • ตองเหมือน คือ การที่มีไพ่สามใบเหมือนกัน เช่น A โพดำสามใบ และจะมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 100 : 1 ( ขึ้นอยู่กับโต๊ะนั้น ๆ )
  • สเตรทฟลัช คือ การเรียงกันตามลำดับและมีไพ่ดอกเดียวกันเช่น 10 J Q โพแดง เป็นต้น อัตราการจ่ายจะอยู่ที่ 40 : 1 ( ขึ้นอยู่กับโต๊ะนั้น ๆ )
  • ตอง คือ การที่มีไพ่สามใบนั้นเหมือนกัน แต่สามารถมีสีและดอกต่างกันได้ เช่น 3 3 3 สีต่างกัน ดอกต่างกันนั้นเอง อัตราการจ่ายจะอยู่ที่ 30 : 1 ( ขึ้นอยู่กับโต๊ะนั้น ๆ )
  • สเตรท คือ ไพ่ในมือนั้นเรียงกันตามลำดับ แต่สามารถมีสีและดอกของไพ่นั้นแตกต่างกันได้ เช่น 2 โพแดง 3 ดอกจิก 4โพดำ อัตราการจ่ายจะอยู่ที่ 10 : 1 ( ขึ้นอยู่กับโต๊ะนั้น ๆ )
  • ฟลัช คือ การที่ไพ่ในมือนั้นมีดอกเดียวกันสามใบ เช่น 2 โพแดง 5 โพแดง 8 โพแดง จะมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 5 : 1 ( ขึ้นอยู่กับโต๊ะนั้น ๆ )
  • วางเดิมพัน Bet Behind

Bet Behind ก็คือการเดิมพันตามผู้เล่นคนอื่น นั้นก็คือ คุณนั้นจะสามารถอ้างอิงการชนะจากไพ่ของผู้เล่นคนอื่นได้ แต่คุณนั้นจะสามารถกำหนดเงินเดิมพันเอง และไม่สามารถบอกให้เขานั้นจั่วไพ่เพิ่ม หรือหยุดเรียกไพ่เพิ่มได้ นั้นก็คือ หากวางเดิมพันตามใครแล้ว ท่านจะไม่มีสิทธิ์ทำอะไร นอกจากวางเดิมพันนั้นเอง

Share

บทความอัพเดท จากทีมงาน casinopublicity กับโลกของ คาสิโนออนไลน์ ที่ไม่มีวันรู้จบ แนะนำและอัพเดท เว็บเดิมพันออนไลน์ สำหรับผู้ที่สนใจ

ข้อมูลอัพเดท : 15 มิถุนายน 2020